บทความ
Blog Image
Lot Size คืออะไร? คำนวณยังไงให้เหมาะกับทุน

วันที่: 2025-10-10 16:52

 Lot Size คือขนาดสัญญาในการเทรด Forex ที่มีผลโดยตรงต่อกำไรและความเสี่ยงของคุณ บทความนี้จะอธิบายแบบเข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างวิธีคำนวณ Lot Size ที่เหมาะกับทุนของมือใหม่หนึ่งในคำถามยอดฮิตของนักเทรดมือใหม่คือ “ควรเปิด Lot เท่าไหร่ดี?” 🤔 เพราะถ้าเปิดใหญ่เกินไปก็เสี่ยงล้างพอร์ต แต่ถ้าเปิดเล็กเกินไป กำไรก็แทบไม่ขยับเลย คำตอบอยู่ที่การเข้าใจ Lot Size ค่ะ ซึ่งเป็นพื้นฐานของ Money Management และ Risk Control ที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องรู้ก่อนเริ่มเทรดจริงLot Size คืออะไร?Lot Size คือหน่วยวัดขนาดของสัญญาการซื้อขายในตลาด Forex ว่าคุณเปิดออเดอร์ด้วยมูลค่าเท่าไหร่ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อกำไรและขาดทุนในแต่ละจุด (Pip)ประเภทของ Lotประเภทขนาดมูลค่าต่อ 1 Pip (โดยประมาณ)Standard Lot100,000 หน่วย10 USDMini Lot10,000 หน่วย1 USDMicro Lot1,000 หน่วย0.10 USDNano Lot100 หน่วย0.01 USDทำไม Lot Size ถึงสำคัญ?กำหนดระดับความเสี่ยงของแต่ละไม้ ถ้าเปิด Lot ใหญ่ ความเสี่ยงก็สูงขึ้นทันที เพราะมูลค่าต่อ Pip จะเพิ่มตามไปด้วยคุมอารมณ์และแผนเทรดได้ดีขึ้น เมื่อคำนวณ Lot ตามแผนที่วางไว้ คุณจะไม่รู้สึกกลัวหรือโลภเกินไปช่วยให้ Money Management ทำงานได้จริง การตั้ง SL และ Risk per Trade จะไม่มีความหมายเลย ถ้าเปิด Lot ไม่สัมพันธ์กับทุนวิธีคำนวณ Lot Size แบบง่ายสำหรับมือใหม่ใช้สูตรพื้นฐานนี้ได้เลย 👇 Lot Size = (ทุนทั้งหมด x % ความเสี่ยง) / (จำนวน Pip ที่ตั้ง SL x มูลค่า Pip ต่อ Lot)ตัวอย่าง: ทุน 1,000$ เสี่ยง 2% = 20$ ตั้ง SL 50 Pip มูลค่า Pip ต่อ 1 Lot = 10$➡️ Lot Size = (1,000 x 0.02) / (50 x 10) = 0.04 Lotแปลว่าถ้าคุณต้องการเสี่ยงแค่ 2% ต่อไม้ ให้เปิดเพียง 0.04 Lot เท่านั้นเคล็ดลับเลือก Lot ให้เหมาะกับทุนพอร์ตเล็ก (ต่ำกว่า 1,000$) ใช้ Micro Lot (0.01–0.05)พอร์ตกลาง (1,000–5,000$) ใช้ Mini Lot (0.1–0.3)พอร์ตใหญ่ (มากกว่า 10,000$) ปรับได้ตาม MM และสไตล์เทรด✨ อย่าลืมว่า “Lot ที่เหมาะสม” ไม่ใช่ Lot ที่กำไรเยอะ แต่คือ Lot ที่อยู่ในตลาดได้ยาวที่สุดFAQ (คำถามพบบ่อย)Q1: เปิด Lot ใหญ่จะได้กำไรมากขึ้นไหม? A: ใช่ แต่ก็ขาดทุนเร็วขึ้นด้วย ถ้าไม่มีแผน MM จะเสี่ยงล้างพอร์ตง่ายมากQ2: โปรแกรมคำนวณ Lot มีไหม? A: มีค่ะ สามารถใช้ Lot Size Calculator ใน MT4/MT5 หรือเว็บของโบรกเกอร์ได้เลยQ3: ต้องคำนวณ Lot ทุกครั้งก่อนเทรดไหม? A: ควรทำ โดยเฉพาะช่วงฝึกฝน เพื่อให้ชินกับการจัดการความเสี่ยงLot Size คือหัวใจของการควบคุมความเสี่ยงในตลาด Forex อย่าดูแค่จำนวนกำไรต่อไม้ แต่ให้มองว่าคุณสามารถเทรดได้อีกกี่ไม้โดยไม่หมดทุน เมื่อเข้าใจและคำนวณ Lot อย่างเหมาะสม พอร์ตของคุณจะอยู่รอดได้ในระยะยาวแน่นอน 💪👉 หากอยากฝึกคำนวณ Lot Size และจัดการทุนอย่างเป็นระบบ แนะนำคอร์ส “การคำนวน กำไร-ขาดทุน ด้วย LOT และ PIP ” จาก All Academy ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจทั้ง Risk, Reward และ Money Management แบบครบวงจร

Blog Image
เทคนิคเลือกคู่เงิน Forex ที่เหมาะกับสไตล์ของคุณ

วันที่: 2025-10-09 17:48

การเลือกคู่เงินที่เหมาะกับสไตล์เทรดของตัวเองคือก้าวแรกของการสร้างระบบเทรดที่มั่นคง บทความนี้จะพาคุณเข้าใจประเภทของคู่เงิน ลักษณะการเคลื่อนไหว และเทคนิคเลือกคู่เงินให้เข้ากับตัวคุณมากที่สุดเคยไหมคะ? เปิดกราฟทุกคู่เงินแต่ไม่รู้จะเทรดคู่ไหนดี 😅 บางคู่วิ่งเร็ว บางคู่นิ่งจนหลับ แต่ละคู่เงินมี “นิสัย” แตกต่างกันไป การเข้าใจลักษณะของมันจึงสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณเลือกคู่เงินที่เข้ากับตัวเองได้ ไม่ต้องฝืนเทรดในสไตล์ที่ไม่เหมาะประเภทของคู่เงินในตลาด ForexMajor Pairs (คู่เงินหลัก) เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY, USD/CHF ✅ สภาพคล่องสูง, สเปรดต่ำ, เหมาะกับมือใหม่ คำเตือน: แต่เคลื่อนไหวไว ต้องมีวินัยในการตั้ง Stop LossMinor Pairs (คู่เงินรอง) เช่น EUR/GBP, AUD/NZD, EUR/JPY ✅ มีโอกาสวิ่งตามเทรนด์ยาว  คำเตือน: สเปรดอาจสูงกว่า และบางช่วงกราฟนิ่งExotic Pairs (คู่เงินแปลก) เช่น USD/THB, USD/SGD, EUR/TRY ✅ เคลื่อนไหวแรง เหมาะกับสายชอบความท้าทาย  คำเตือน: เสี่ยงสูงและสเปรดกว้างมาก ไม่แนะนำสำหรับมือใหม่วิธีเลือกคู่เงินให้เหมาะกับสไตล์การเทรด1. สาย Scalping (เทรดสั้น ทำกำไรไว)เลือกคู่เงินที่สเปรดต่ำและเคลื่อนไหวไว เช่น EUR/USD, GBP/USD, XAU/USD เน้นจังหวะเข้าเร็วออกเร็ว และต้องคุมอารมณ์ให้ดี2. สาย Day Trade (เทรดรายวัน)เลือกคู่ที่มีแนวโน้มชัด เช่น USD/JPY, GBP/JPY สามารถเข้าออกภายในวันเดียวได้ตามสัญญาณ Price Action3. สาย Swing Trade (ถือข้ามวัน)เหมาะกับคู่ที่เคลื่อนที่ตามเทรนด์ยาว เช่น EUR/AUD, GBP/CHF, XAU/USD ต้องวางแผน MM ดีและมี Stop Loss ที่เหมาะสม4. สาย News Trader (เทรดตามข่าว)เลือกคู่เงินที่ตอบสนองต่อข่าวแรง เช่น GBP/USD, XAU/USD, USD/CAD ติดตามข่าวสำคัญ เช่น NFP, CPI, FOMC เพื่อหาจังหวะเข้าออกเคล็ดลับเล็ก ๆ สำหรับมือใหม่เริ่มจากคู่เดียวก่อน เช่น EUR/USD หรือ XAU/USD เพื่อศึกษาพฤติกรรมให้เข้าใจลึกอย่าเปลี่ยนคู่บ่อย เพราะแต่ละคู่มีจังหวะไม่เหมือนกันสังเกตช่วงเวลาที่กราฟเคลื่อนไหว เช่น London Session หรือ New York SessionFAQ (คำถามพบบ่อย)Q1: คู่เงินไหนเหมาะกับมือใหม่มากที่สุด? A: EUR/USD เพราะสภาพคล่องสูงและข้อมูลข่าวสารเยอะ เข้าใจง่ายQ2: คู่เงินทอง (XAUUSD) เหมาะกับทุกคนไหม? A: เหมาะกับคนที่ชอบการเคลื่อนไหวแรง แต่ต้องวางแผน MM ดี เพราะผันผวนสูงQ3: ต้องเทรดหลายคู่ไหมถึงจะได้กำไร? A: ไม่จำเป็น เทรดแค่คู่ที่เข้าใจดีที่สุดพอก็สามารถสร้างกำไรได้การเลือกคู่เงินให้เหมาะกับตัวเอง คือการเลือกสนามรบที่คุณถนัด 💪 อย่าพยายามเทรดทุกคู่ แต่ให้เลือกคู่ที่คุณเข้าใจพฤติกรรมมันที่สุด แล้วสร้างระบบเทรดให้เหมาะกับสไตล์นั้น👉 ถ้าอยากเรียนรู้ลึกกว่านี้ว่า “แต่ละคู่เงินมีพฤติกรรมยังไง และใช้กลยุทธ์ไหนถึงจะได้เปรียบ” แนะนำคอร์ส “คู่เงินทองคำและการวิเคราะห์โครงสร้างตลาด” จาก All Academy ที่จะสอนตั้งแต่พื้นฐานจนถึงการอ่านกราฟแบบมืออาชีพ

Blog Image
วิธีบันทึก Trading Journal สำหรับมือใหม่

วันที่: 2025-10-07 14:30

Trading Journal คือสมุดบันทึกการเทรดที่ช่วยให้คุณรู้จุดแข็ง จุดอ่อน และพัฒนาได้เร็วขึ้น บทความนี้จะสอนวิธีจด Journal อย่างมีระบบ เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ที่อยากเทรดให้ดีขึ้นทุกวันเคยไหมคะ? เทรดไปหลายไม้แต่จำไม่ได้ว่าทำไมเข้า หรือทำไมแพ้ 🤔ถ้าใช่...แปลว่าคุณยังไม่มี Trading Journal ซึ่งจริง ๆ แล้วนี่คือเครื่องมือที่เทรดเดอร์มืออาชีพทุกคนใช้ เพราะมันช่วยให้คุณเห็นพฤติกรรมตัวเองชัดขึ้น และแก้จุดผิดได้เร็วขึ้นมาก 💡ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีบันทึก Trading Journal แบบเข้าใจง่าย ใช้ได้จริง โดยไม่ต้องเขียนยาวให้ยุ่งยากTrading Journal คืออะไร?Trading Journal คือ สมุดบันทึกการเทรดของคุณเอง ใช้สำหรับเก็บข้อมูลทุกออเดอร์ที่เปิด ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน เพื่อช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการเทรดและปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดีขึ้นข้อมูลที่ควรมีใน Journal:วันที่ / เวลาเปิด–ปิดออเดอร์คู่เงิน (เช่น XAUUSD, EURUSD)จุดเข้า (Entry) และจุดออก (Exit)Stop Loss / Take Profitเหตุผลในการเข้าเทรดผลลัพธ์ (กำไรหรือขาดทุน)บันทึกอารมณ์ / ความรู้สึกตอนเทรดทำไมต้องมี Trading Journal?รู้จุดแข็ง–จุดอ่อนของตัวเอง คุณจะเห็นชัดว่ากลยุทธ์ไหนเวิร์ก และแบบไหนพังบ่อยช่วยควบคุมอารมณ์ พอเห็นข้อมูลจริง คุณจะไม่หลอกตัวเองว่าพอร์ตพังเพราะดวงไม่ดีวัดผลได้จริง ทำให้เห็นว่า Winrate ของคุณเป็นเท่าไหร่ ค่าเฉลี่ยกำไรต่อไม้เป็นยังไงวิธีบันทึก Trading Journal แบบมืออาชีพ1. ใช้ตาราง Excel หรือ Google Sheetsจัดช่องง่าย ๆ เช่น วันที่, คู่เงิน, จุดเข้า–ออก, SL/TP, ผลลัพธ์, หมายเหตุ อย่าลืมใส่ % ความเสี่ยงและผลตอบแทน (R:R) ด้วย2. เขียนเหตุผลก่อนกดเข้าออเดอร์ถามตัวเองว่า “เข้าเพราะแผน หรือเพราะอยากเข้า?” จดไว้ทุกครั้ง เพื่อเช็กว่าคุณเทรดตามระบบหรือใช้อารมณ์3. สรุปทุกสัปดาห์ / เดือนดูว่าใน 10 ไม้ที่ผ่านมา ชนะกี่ครั้ง แพ้เพราะอะไร แล้วปรับแผนในรอบถัดไปตัวอย่างการบันทึกFAQ (คำถามพบบ่อย)Q1: ต้องจดทุกไม้ไหม? A: ควรจดทุกไม้ โดยเฉพาะไม้ที่ผิดพลาด เพราะนั่นคือข้อมูลสำคัญที่สุดQ2: ใช้แอปอะไรบันทึกได้บ้าง? A: ใช้ได้ทั้ง Excel, Google Sheets หรือแอปเทรดเดอร์อย่าง Edgewonk, TraderSync ก็สะดวกQ3: ถ้าเทรดไม่บ่อย ต้องจดไหม? A: ยิ่งต้องจด เพราะคุณจะเห็นว่าช่วงไหนมีวินัยและช่วงไหนขาดโฟกัสTrading Journal คือกระจกสะท้อนพฤติกรรมของเทรดเดอร์ มันไม่ใช่แค่สมุดจด แต่คือ “คู่มือพัฒนา” ที่ทำให้คุณเทรดดีขึ้นทุกเดือน จำไว้ว่า คนที่จดอย่างมีระบบ จะเห็นผลลัพธ์ชัดกว่าคนที่เทรดไปวัน ๆ เสมอ 💪👉 หากอยากเรียนรู้วิธีสร้าง Trading Journal แบบมีระบบ พร้อมเทคนิควิเคราะห์ผลการเทรด แนะนำคอร์ส “ Basic Forex เทรดเดอร์มือใหม่ เริ่มยังไงให้ไม่ล้ม ” ที่ All Academy ได้เลย!

Blog Image
Risk:Reward คืออะไร? ทำไมต้องรู้ก่อนเทรดจริง

วันที่: 2025-10-06 20:57

Risk:Reward Ratio คือหลักการคำนวณผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่เทรดเดอร์มืออาชีพทุกคนใช้ บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างการคำนวณจริงสำหรับมือใหม่ในตลาด Forexเวลาที่คุณเทรด Forex เคยคิดไหมว่า “ไม้ที่เราเข้า คุ้มเสี่ยงหรือเปล่า?” หลายคนเน้นหาจุดเข้าอย่างเดียว แต่ไม่เคยมองว่า ถ้าผิดทางจะเสียเท่าไหร่ และถ้าถูกทางจะได้เท่าไหร่นั่นแหละคือหัวใจของ Risk:Reward Ratio (R:R) 💡ถ้าคุณอยากเทรดแบบมืออาชีพ ต้องเข้าใจแนวคิดนี้ให้ดี เพราะมันคือพื้นฐานที่บอกว่า “จังหวะที่คุณเข้า คุ้มค่าพอจะเสี่ยงไหม”Risk:Reward คืออะไร?Risk:Reward Ratio (RR หรือ R:R) คือ อัตราส่วนระหว่างความเสี่ยงที่คุณยอมขาดทุนต่อไม้ กับผลตอบแทนที่คุณคาดว่าจะได้หากเทรดถูกทางสูตรคำนวณง่าย ๆR:R = (ระยะ Take Profit) ÷ (ระยะ Stop Loss)ตัวอย่างตั้ง SL ห่าง 50 จุด, TP ห่าง 100 จุด ->R:R = 100 ÷ 50 = 1:2 หมายถึง ถ้าคุณแพ้ 1 ครั้ง แต่ชนะครั้งเดียว ก็ยังบวกได้ ✅ทำไม Risk:Reward ถึงสำคัญ?คุมความเสี่ยงได้แม้ไม่ชนะทุกครั้ง – ถ้าคุณตั้ง R:R 1:2 และมี Winrate แค่ 50% คุณก็ยังมีกำไรช่วยวางแผนเทรดได้เป็นระบบ – ก่อนเข้าไม้ คุณจะรู้เลยว่าควรตั้ง TP/SL ยังไงให้คุ้มเสี่ยงลดการเทรดตามอารมณ์ – เมื่อมี R:R ที่แน่นอน จะไม่ปิดไวเพราะกลัว และไม่ถือยาวเพราะโลภวิธีใช้ Risk:Reward ในการเทรดจริงก่อนเข้าออเดอร์ ให้คำนวณว่า “เสี่ยงเท่าไหร่ เพื่อได้เท่าไหร่”อย่าตั้ง TP/SL ตามใจ แต่ใช้โครงสร้างตลาดช่วย เช่น แนวรับ–แนวต้านควรตั้ง R:R อย่างน้อย 1:2 ขึ้นไป ถ้าได้ 1:3 ยิ่งดี (เสี่ยง 1 ส่วน เพื่อหวังได้ 3 ส่วน)ตัวอย่างการวางแผนทุน 1,000$ เสี่ยง 1% = 10$SL 50 จุด -> TP 100 จุด (R:R = 1:2)ถ้าแพ้ 3 ไม้ ชนะ 2 ไม้ ยังบวกได้รวม +10$FAQ (คำถามพบบ่อย)Q1: R:R เท่าไหร่ถึงจะดี?A: อย่างน้อย 1:2 หรือ 1:3 สำหรับสาย Swing แต่ถ้า Scalping อาจใช้ 1:1.5 ก็ได้Q2: ตั้ง R:R ไว้ดีแต่ชนะน้อยครั้ง ควรทำยังไง?A: ปรับกลยุทธ์หาจุดเข้าให้แม่นขึ้น แต่อย่าลด R:R จนไม่คุ้มเสี่ยงQ3: ต้องใช้ R:R กับทุกไม้ไหม?A: ควรใช้ทุกครั้ง เพื่อให้พอร์ตคุณมีความสม่ำเสมอและคำนวณผลลัพธ์ได้การเข้าใจ Risk:Reward คือรากฐานของการเทรดอย่างมีระบบ คุณไม่จำเป็นต้องชนะทุกไม้ แค่ให้กำไรเฉลี่ยต่อไม้มากกว่าขาดทุนเฉลี่ยต่อไม้ พอร์ตก็เติบโตได้แล้ว 💪จำไว้ว่า… การวิเคราะห์แม่นไม่สำคัญเท่าการวางแผนให้คุ้มเสี่ยงก่อนเข้าเทรด👉 หากอยากเรียนรู้การตั้ง Risk:Reward คู่กับ Money Management อย่างละเอียด แนะนำคอร์ส “ การคำนวณ กำไร-ขาดทุน ด้วย Lot และ Pip ” ที่ All Academy สอนโดยผู้เชี่ยวชาญที่เทรดจริงทุกวัน

Blog Image
Money Management ทำไมต้องมาก่อนกำไร

วันที่: 2025-10-05 19:46

Money Management คือหัวใจของการเทรด Forex ที่มือใหม่มักมองข้าม หากคุณอยากอยู่รอดและพอร์ตไม่พัง ต้องเข้าใจวิธีจัดการความเสี่ยงและขนาดการเทรด (Lot size) อย่างถูกต้อง บทความนี้มีคำตอบครบนักเทรดมือใหม่ส่วนใหญ่มักโฟกัสไปที่ “กำไร” มากกว่าการจัดการเงินทุน แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่ทำให้คนพอร์ตพังคือการ ไม่รู้จักใช้ Money Management (MM) 😅การวิเคราะห์กราฟอาจทำให้คุณรู้จังหวะเข้าออก แต่ MM คือกุญแจที่ทำให้คุณอยู่รอดในตลาด Forex ต่อให้ชนะไม่กี่ครั้งแต่เสี่ยงถูกต้อง พอร์ตก็ยังเติบโตได้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก MM อย่างละเอียด พร้อมวิธีประยุกต์ใช้จริงMoney Management คืออะไร?Money Management (MM) คือการจัดการเงินทุนและความเสี่ยงในการเทรด Forex เพื่อให้พอร์ตอยู่ในสภาพที่ยั่งยืน ไม่หมดเร็ว และเติบโตตามแผนที่วางไว้องค์ประกอบหลักของ MM:Risk per trade: กำหนดความเสี่ยงต่อไม้ เช่น 1–2% ของทุนLot size: คำนวณขนาดการเปิดออเดอร์ให้เหมาะกับทุนและ Stop LossRisk:Reward Ratio: สร้างสมดุลระหว่างโอกาสแพ้กับชนะทำไม MM ถึงสำคัญกว่ากำไร?กำไรไม่แน่นอน แต่ความเสี่ยงควบคุมได้ – คุณไม่มีทางรู้ว่ากราฟจะไปทางไหน แต่คุณกำหนดได้ว่าจะยอมเสียกี่ % ต่อครั้งอยู่รอดในเกมยาวนานขึ้น – คนที่หมดพอร์ตไม่ใช่เพราะแพ้บ่อย แต่เพราะเสี่ยงหนักครั้งเดียวทำให้มีวินัยและจิตใจนิ่ง – เมื่อคุณรู้ว่าความเสี่ยงถูกควบคุม จะไม่โลภหรือกลัวเกินไปหลักการ MM เบื้องต้นสำหรับมือใหม่เสี่ยงไม่เกิน 1–2% ของพอร์ตต่อการเทรดหนึ่งครั้งใช้ Risk:Reward อย่างน้อย 1:2 → ถ้าแพ้ 2 ครั้ง ชนะครั้งเดียวก็ยังบวกคำนวณ Lot Size ตามระยะ Stop Lossตัวอย่าง: พอร์ต 1,000$ เสี่ยง 1% = 10$ ต่อไม้ หากตั้ง SL ห่าง 50 จุด ต้องเปิด Lot ขนาดที่เมื่อ SL โดนแล้ว ขาดทุนไม่เกิน 10$FAQ (คำถามพบบ่อย)Q1: ทำไมบางคนชนะหลายครั้งแต่พอร์ตติดลบ? A: เพราะไม่มี MM การเสี่ยงมากเกินไปในบางไม้ทำให้ขาดทุนหนักจนกำไรหายหมดQ2: MM ใช้กับสไตล์เทรดไหนได้บ้าง? A: ใช้ได้ทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Day trade, Swing หรือ ScalpingQ3: MM ทำให้รวยช้าลงไหม? A: อาจดูช้า แต่ปลอดภัยและยั่งยืนกว่าการได้กำไรเร็วแล้วพอร์ตล้างMoney Management คือรากฐานที่นักเทรดทุกคนต้องมี หากคุณอยากให้อยู่ในตลาด Forex ได้ยาว ๆ กำไรจะไม่มีค่าเลย ถ้าคุณไม่รู้วิธีปกป้องทุน ดังนั้นจงเริ่มจากการคุมความเสี่ยงก่อนเสมอ👉 หากอยากฝึกใช้ Money Management แบบเจาะลึก แนะนำคอร์ส “ Money Manament อาจารย์โต้ ” ของ All Academy ที่สอนครบทั้งการจัดการทุน การตั้ง Stop Loss และการวางกลยุทธ์ให้พอร์ตเติบโตอย่างมั่นคง

Blog Image
Stop Loss คืออะไร สำคัญยังไงสำหรับมือใหม่

วันที่: 2025-10-04 20:48

Stop Loss คืออะไร สำคัญยังไงสำหรับมือใหม่มือใหม่หลายคนไม่กล้าตั้ง Stop Loss เพราะคิดว่าเป็นตัวขวางกำไร แต่จริง ๆ แล้วมันคือเครื่องมือที่ช่วยรักษาทุน และทำให้คุณอยู่ในตลาดได้นานขึ้น มาทำความเข้าใจง่าย ๆ ไปพร้อมกันตอนที่เพิ่งเริ่มเทรด Forex คุณอาจเคยคิดว่า “ไม่ตั้ง Stop Loss ดีกว่า เดี๋ยวกราฟก็กลับมา” สุดท้ายพอร์ตติดลบยาวจนถอนใจไม่ขึ้น 😅แต่ความจริงแล้ว Stop Loss (SL) คือเกราะป้องกัน ไม่ใช่กับดัก มันเหมือนรั้วที่ช่วยกันไม่ให้คุณตกหน้าผา ยอมเสียเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เสียทั้งหมด วันนี้เรามาเจาะลึกกันว่า SL สำคัญยังไง และตั้งยังไงให้เหมาะสำหรับมือใหม่Stop Loss คืออะไร?Stop Loss หรือ SL คือคำสั่งที่นักเทรดใช้ในการปิดออเดอร์อัตโนมัติ หากราคาวิ่งสวนเกินกว่าที่เรายอมขาดทุนได้ เปรียบเหมือน “จุดตัดใจ” ที่ทำให้คุณเสียเท่าที่วางแผนไว้ ไม่เกินนั้นตัวอย่าง: ซื้อทองคำที่ 3850$ ตั้ง SL ที่ 3840$ หมายถึงคุณยอมเสีย 10$ ต่อออเดอร์ หากราคาตกถึงระดับนั้น ระบบจะปิดอัตโนมัติ  ประโยชน์ของ SLจำกัดการขาดทุน ไม่ให้ลามจนพอร์ตพังลดความเครียด ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาบังคับให้คุณมีวินัยตามแผนที่วางไว้ทำไมมือใหม่ต้องใช้ Stop Loss?ตลาดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน – ไม่มีใครทายถูกทุกครั้ง SL คือแผนสำรองเมื่อคุณพลาดช่วยจัดการอารมณ์ – การไม่ตั้ง SL ทำให้คุณเสี่ยงปล่อยออเดอร์ลบยาวเพราะไม่อยากยอมแพ้เป็นกุญแจสู่การอยู่รอด – เป้าหมายแรกของมือใหม่ไม่ใช่การชนะทุกครั้ง แต่คือการไม่หมดพอร์ตวิธีตั้ง Stop Loss เบื้องต้นตั้ง SL ไว้ในจุดที่ “โครงสร้างตลาดเปลี่ยน” เช่น ใต้แนวรับสำคัญหรือเหนือแนวต้านอย่าตั้งใกล้เกินไปจนกราฟสะบัดนิดเดียวก็โดนกินกำหนดความเสี่ยงต่อไม้ไม่เกิน 1–2% ของทุนทั้งหมดFAQ (คำถามพบบ่อย)Q1: ตั้ง SL แล้วโดนกินตลอด ต้องทำยังไง? A: ปรับจุดเข้าและการวาง SL ให้อยู่ตามโครงสร้างตลาด ไม่ใช่ตามความรู้สึกQ2: ถ้าไม่ตั้ง SL แต่จะนั่งเฝ้ากราฟแทนได้ไหม? A: ทำได้ แต่เสี่ยงใช้ “อารมณ์” ตัดสินใจมากเกินไป และไม่ยั่งยืนQ3: การตั้ง SL ทำให้เสียโอกาสกำไรไหม? A: SL มีไว้ปกป้องทุน กำไรจะยังมีให้เก็บเรื่อย ๆ ตราบใดที่คุณยังอยู่ในเกมStop Loss ไม่ได้ทำให้คุณแพ้ แต่มันช่วยให้คุณแพ้อย่างมีระบบและอยู่รอดเพื่อรอจังหวะใหม่ จำไว้ว่า กำไรจะไม่มีค่าเลย ถ้าคุณไม่รู้วิธีปกป้องทุน👉👉 ถ้าอยากรู้วิธีจับคู่ Stop Loss ให้เข้ากับ Money Management แบบมืออาชีพ แนะนำคอร์ส “Basic Forex เทรดเดอร์มือใหม่ เริ่มยังไงให้ไม่ล้ม” ของ All Academy เลยค่ะ 📝 ในคอร์สนี้คุณจะได้เรียนรู้ครบทั้งการตั้ง SL, การจัดการทุน, และการวางแผนการเทรดแบบเป็นระบบ

Blog Image
การวางแผนเทรด Forex สำหรับมือใหม่ – เริ่มยังไงให้รอดก่อนรวย

วันที่: 2025-10-04 20:42

มือใหม่อยากเทรด Forex แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? มาดูวิธีวางแผนเทรดง่าย ๆ แบบเพื่อนสอนเพื่อน เข้าใจเร็ว ใช้ได้จริง พร้อมตัวอย่างสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่อยากเริ่มแบบไม่เจ็บตัวคุณเคยเป็นแบบนี้ไหม? กดเข้าออเดอร์เพราะเห็นกราฟวิ่งแรง ๆ แต่ไม่รู้จะออกตรงไหน สุดท้ายพอร์ตติดลบจนเครียดทั้งวัน… จริง ๆ แล้วสิ่งที่คุณขาดอาจไม่ใช่ความรู้เพิ่ม แต่คือการวางแผนก่อนเทรดต่างหากในตลาด Forex คนที่อยู่รอดได้ ไม่ใช่คนที่เดาเก่ง แต่คือคนที่เตรียมตัวเก่งและมีระบบที่ชัดเจน บทความนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการวางแผนเทรด Forex แบบง่าย ๆ ที่คุณทำตามได้ตั้งแต่วันนี้ทำไมการวางแผนเทรดถึงสำคัญ?ลองคิดดูสิ…ถ้าคุณออกเดินทางไปต่างจังหวัดโดยไม่เปิด Google Maps โอกาสหลงมีแค่ไหน? 🚗💨 การเทรดก็เหมือนกัน ถ้าเข้าไปแบบไม่มีแผน โอกาสที่จะเสียมากกว่าได้สูงมากแผนการเทรดช่วยให้คุณ:กำหนดจุดเข้า–ออกชัดเจนคุมความเสี่ยงได้แยกอารมณ์ออกจากการตัดสินใจ3 ส่วนสำคัญของแผนเทรด1. จุดเข้า–ออก (Entry & Exit)การกำหนดจุดเข้าช่วยให้คุณไม่ไล่ตามราคา เช่น วางแผนว่าถ้าทองคำ (XAUUSD) ย่อลงถึง 3850$ จะซื้อ และตั้ง Take Profit ที่ 3890$ (all time high)2. Stop Loss (SL)SL คือเกราะกันพอร์ตพัง อย่ากลัวที่จะตั้ง เพราะมันคือเครื่องมือให้คุณอยู่ในเกมได้นานขึ้น3. Money Managementจัดการทุนด้วยการเสี่ยงไม่เกิน 1–2% ของพอร์ตในแต่ละไม้ เช่น พอร์ต 10,000$ ความเสี่ยงต่อครั้งควรอยู่แค่ 100–200$ เท่านั้นตัวอย่างสำหรับมนุษย์เงินเดือนใครที่ไม่มีเวลานั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน สามารถใช้แผนนี้ได้เลย:เลือกคู่เงินหลัก ๆ เช่น EURUSD หรือทองคำตั้ง Pending Order ไว้ตอนเช้า แล้วไปทำงานเลิกงานค่อยกลับมาเช็กผล + จดบันทึกลง Trading JournalFAQ (คำถามพบบ่อย)Q1: มือใหม่ควรเริ่มด้วยทุนเท่าไหร่? A: เริ่มเล็ก ๆ เช่น 100–200$ เพื่อฝึกวางแผนก่อน อย่าเพิ่งใช้เงินก้อนใหญ่Q2: ถ้าแพ้ติดกันหลายไม้ควรทำยังไง? A: หยุดเทรด 1–2 วัน ทบทวน Trading Journal แล้วค่อยกลับมาใหม่Q3: การมีแผนช่วยให้ชนะทุกครั้งไหม? A: ไม่ค่ะ แต่ช่วยให้คุณแพ้อย่างควบคุมได้ และอยู่ในตลาดจนชนะได้จริงการวางแผนเทรด คือก้าวแรกที่จะทำให้คุณอยู่รอดในตลาด Forex มันไม่ใช่สูตรลับซับซ้อน แต่คือการเตรียมตัวก่อนกดเข้าออเดอร์เริ่มวันนี้ด้วยการเขียนแผนเทรดสั้น ๆ ลงกระดาษ แล้วทำตามต่อเนื่อง คุณจะเห็นความต่างทันทีว่าการเทรดมันง่ายขึ้น ✨👉 อยากเข้าใจการตั้ง Stop Loss และการใช้ Money Management แบบเป็นระบบ? แนะนำคอร์ส “Basic Forex เทรดเดอร์มือใหม่ เริ่มยังไง ไม่ให้ล้ม” ที่ All Academy เลยค่ะ 🚀